แน่นอน มันเป็นอะไรที่มีน้ำหนักความน่าจะเป็นสูงกว่าเยอะ เมื่อเทียบกับ “ตำรวจสันติบาล” สไตล์หน่วยความมั่นคงนับหัวม็อบ “รายงานนาย” กดตัวเลขให้ต่ำตามฟอร์ม
ต้องยอมรับม็อบนักศึกษาเลยเส้นคำว่า “จุดติด” มาไกลมาก
พัฒนาการระดมพลผ่าน “แฮชแท็ก” สื่อสารผ่านทวิตเตอร์ รวมตัวพรึบพรับในห้วงติดๆกัน
และจากปรากฏการณ์ เห็นได้ถึงความพยายามกรอง “พลังบริสุทธิ์” ของเด็กรุ่นใหม่ โดยไม่มีนักการเมืองค่ายใดเข้าไปสะเออะยุ่มย่าม อย่างมากก็แค่ห้อยโหนอยู่วงนอกเท่านั้น
เสื้อแดง นปช.ก็แค่ได้เข้าพื้นที่ร่วมแจมประปราย
จุดสำคัญตัวจี๊ดอย่าง “เพนกวิน–รุ้ง” ไม่ได้ขึ้นเวที แค่แจกใบปลิวอยู่ด้านล่าง
จับทางกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” ที่ยกระดับเป็นแนวร่วม “ประชาชนปลดแอก” มวลชนนักศึกษากลุ่มหลักก็ไม่ได้ยึดโยงกับเวที “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ไม่ได้ผูกติดกับ 10 ข้อเรียกร้อง “ล้ำเขตแดนอันตราย”
เน้นธง 3 เงื่อนไข หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่และยุบสภา
ส่วนอีก “1 ความฝัน” ยังเป็นแค่คาดหวัง ไม่ถึงขั้นดันทะลุทะลวง ต้องเอาให้ได้ตามแนวการเคลื่อนของนักศึกษายังแบ่งเวที สงวนจุดต่าง แสวงจุดร่วม ไปสู่การทวงประชาธิปไตย
ไม่ได้ฮาร์ดคอร์ ท้า “เกมแลกเลือด” ซะทีเดียว
แต่เท่านี้ก็เสียวแล้ว สำหรับเกมอำนาจห้วง “ขาลง” ตามฉากการเมืองที่เดาตอนจบได้ ม็อบนักศึกษา “จุดติด” มวลชนรุ่นใหม่ สำแดงพลัง สวนทางกับภาวะ “ภูมิคุ้มกันตก” อาการผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เจอไวรัสเน่าทั้งการเมือง เศรษฐกิจ คอร์รัปชัน
นั่นไม่สำคัญเท่าพฤติการณ์ใช้อำนาจมั่วๆของกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ กลางน้ำ
“บิ๊กตู่” อยู่ในห้วงเสี่ยงโรคแทรกซ้อนได้ทุกขณะ
สภาพรัฐบาลอำนาจง่อนแง่น ผู้นำหมดมนต์ขลัง พรรคร่วมพร้อมงัดข้อ เล่นเกมต่อรองผลประโยชน์ ฉวยนาทีทองถอนทุน ตุนเสบียงเลือกตั้ง อย่างที่ไม่ทันไรก็ได้เห็นอารมณ์คนประชาธิปัตย์กระโดดโหนม็อบ อวยนักศึกษาชุมนุมได้อย่างมีระเบียบแบบแผน
ตามฟอร์มเขี้ยวยี่ห้อ ปชป.ส่อโดดสละเรือก่อนใคร
ที่แสบไม่แพ้กันก็คือพวกข้าราชการที่รอใส่ “เกียร์ว่าง” เมื่อเห็นม็อบแรง สถานการณ์รัฐบาลเริ่มนับถอยหลัง ไม่มีใครเสี่ยงทำงานสนองคนที่ใกล้หมดอำนาจ
สถานการณ์บีบเข้ามุม “โยนผ้า” ดูท่า “บิ๊กตู่” ลำบากขึ้นทุกขณะ
เรื่องของเรื่อง “จุดเปลี่ยน” ขาลงแบบ 90 องศา ไล่ไทม์ไลน์มันก็เริ่มมาจากการแย่งอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ ฟัดกันแย่งโควตาปรับ ครม. มาเจอ “โป๊ะแตก” คดี “บอส อยู่วิทยา” แถมดึงเช็งคดีทุจริตสนามฟุตซอลโคราช ซ้ำด้วยปม “ตบทรัพย์” ในที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการงบประมาณ ประจานเสือหิว เสือโหย
ประจานการใช้อำนาจแทรกแซงตำรวจ อัยการ ป.ป.ช. โดยเฉพาะสภายิ่งไว้ใจไม่ได้
พฤติการณ์แฝงโยงใยขุมข่าย 3 ป.
พอถึงเวลา “น้ำลด” ปรากฏการณ์ “หมดความชอบธรรม” เลยฉุดขาลงแนวดิ่ง
และว่ากันตามสูตรเกมอำนาจประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่จะพูดถึงกันในภาวะการเมืองในสภาคับขัน ถูกม็อบนอกสภาบีบเข้าทางตัน นั่นก็คือมุก “สลับไพ่” ดับไฟเฉพาะหน้า
ถึงแม้ม็อบนักศึกษาจะประกาศจุดยืน ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ
และโอกาสเกิดปฏิวัติก็คงไม่มีใครกล้า เพราะเสี่ยงรับผิดชอบกับความเสียหายไม่ไหว
แต่ในเหลี่ยมของรัฐบาลแห่งชาติมันยังตัดไปเลยไม่ได้ ในมุมช่องผ่าทางตัน อีกทั้งว่ากันเชิงยุทธศาสตร์ เกมม็อบนักศึกษาก็ต้องลากไปสุดโต่งก่อน แล้วดึงเจรจามาพบกันครึ่งทาง
เมื่อรัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ สภาก็ยังอยู่ ไม่ยากถ้าจะหาผู้นำใหม่ที่พอรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย
โหวตนายกฯคนนอกมาบริหารเศรษฐกิจ ดันภารกิจรื้อรัฐธรรมนูญชั่วคราวก่อนเลือกตั้งใหม่
ประตูเดียวที่ไม่ต้องเสี่ยงเกมแลกเลือด.
ทีมข่าวการเมือง
"คิด" - Google News
August 17, 2020 at 03:01PM
https://ift.tt/3iJv4AO
ม็อบจุดติดต้องรีบคิด - ไทยรัฐ
"คิด" - Google News
https://ift.tt/2zKBRJC
Home To Blog
No comments:
Post a Comment