Pages

Thursday, July 23, 2020

เผยนาทีระทึก! พระเมาขับรถพุ่งชนรั้ว คิดว่าน็อกเบาหวานแต่พบขวดเหล้า - บ้านเมือง

apapikirnya.blogspot.com

วันพฤหัสบดี ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 11.52 น.

ชาวบ้าน ต.คูเมือง อ.คูเมือง บุรีรัมย์ เผยนาทีระทึก ขณะพระเมาขับรถพุ่งชนรั้วบ้าน หวิดชนเด็ก คิดว่าน็อกเบาหวาน เปิดประตูรถกลิ่นเหล้าคลุ้ง เจอขวดเหล้าขาวอีก 2 ขวด หลังเกิดเหตุทราบว่าญาติมาจากสุรินทร์พาตัวหายลึกลับ


วันที่ 23 ก.ค.63 กรณีเพจ “อีซ้อ ขยี้ข่าว-ทัวร์ลง” เอาคลิปภาพชาวบ้านกำลังช่วยพระรูปหนึ่ง ที่เมาเกือบหมดสติภายในรถ หลังขับรถกระบะไปชนรั้วชาวบ้าน กระทั่งสังคมออนไลน์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง มาก่อนหน้านี้


ล่าสุดชาวบ้านจิกใหญ่ ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ต่างออกมาเล่านาทีระทึกในวันนั้น ยังจำภาพติดตาในวันนั้นได้ เพราะมีเด็กที่วิ่งเล่นหลายคนในหมู่บ้านเกือบถูกรถพระชน


นางฐิติกา รักษา อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุและเป็นคนถ่ายคลิป เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ได้เห็นรถคันเกิดเหตุ ขับมาด้วยความเร็ว คิดในใจว่า “ใครขับรถในถนนหมู่บ้านเร็ว”


จู่ๆรถก็พุ่งข้ามเลนมาหารั้วบ้านของตัวเอง โชคดีรถไปชนถูกต้นมะละกอก่อน และยิ่งโชคดีกว่านั้นคือก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาที มีเด็กวิ่งเล่นบริเวณนั้น 2-3 คนถ้าเป็นช่วงนั้นอาจจะเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นได้


นางฐิติกา เล่าด้วยว่า หลังรถจอดสนิท เห็นเป็นพระนอนฟุบพวงมาลัย คิดว่า “น่าจะน็อกเบาหวาน” จึงเรียกชาวบ้านให้มาช่วยหลวงพ่อ พอเปิดประตูรถ ได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง และยังพบขวดเหล้าขาวอีก 2 ขวด จึงพาไปนั่งสงบสติอารมณ์


ขณะนางสมบูรณ์ ชำนิกล้า อายุ 49 ปี อยู่เลขที่ 60 หมู่ 3 คนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า หลังนำพระออกจากรถแล้ว พระรูปนี้ เมาไม่ได้สติ ยกมือไหว้ชาวบ้านทุกคน จากที่ทราบพระรูปนี้ อยู่วัดจิกน้อย ต.คูเมือง ส่วนคำว่า “อกหัก” ชาวบ้านพูดขึ้นลอยๆ ว่า “อกหักมาจากไหนหนอ” จริงแล้วไม่รู้จักพระรูปดังกล่าว


โดยหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.หรือเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ทราบข่าวจากชาวบ้านว่า ได้มีญาติมาจากจังหวัดสุรินทร์ มารับตัวไป แล้วไม่มีใครเห็นหน้าพระรูปนี้อีกเลย

Let's block ads! (Why?)



"คิด" - Google News
July 22, 2020 at 09:52PM
https://ift.tt/2WIl5Dp

เผยนาทีระทึก! พระเมาขับรถพุ่งชนรั้ว คิดว่าน็อกเบาหวานแต่พบขวดเหล้า - บ้านเมือง
"คิด" - Google News
https://ift.tt/2zKBRJC
Home To Blog

No comments:

Post a Comment