16 มิ.ย.63- นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์หัวข้อ”ในวันที่ทำการเมืองนอกสภา” ผ่านเฟซบุ๊กเดอะอีสานเรคคอร์ด ในระหว่างลงพื้นที่จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตอนหนึ่งนายปิยบุตร กล่าวถึงแนวทางในการผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบและเปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล ระบุว่า ตนไม่รู้ว่าพรรคก้าวไกลเขาจะเดินอย่างไรต่อ แต่ที่ได้ฟังก็คือเขาบอกว่าเขาจะสืบสานปณิธานของพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้นตนพูดในฐานะที่เคยช่วยกันออกแบบนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ แต่ในส่วนของตน ๆ จะรณรงค์ต่อในนามของคณะก้าวหน้า ก็คงจะทำเรื่องการกระจายอำนาจต่อ จริงๆ วันที่ตนนำเสนอนโยบายเรื่องนี้ในวันแถลง 6 นโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ตนจงใจไม่ใช้คำว่ากระจายอำนาจถ้าย้อนไปดู ตนใช้คำว่ายุติรัฐราชการรวมศูนย์ คือกระจายอำนาจนั้นหมายความว่าอำนาจเป็นของส่วนกลาง อำนาจเป็นของเมืองหลวง แล้วคุณก็กระจายออกไปให้เขา แบ่งออกไปให้เขา แต่ประวัติศาสตร์แผ่นดินขวานทองของไทยทั้งหมด อำนาจจริงๆ มันอยู่ที่นี่อยู่แล้ว การตัดสินใจอยู่ที่นี่ แต่ว่าในช่วงบางยุคบางสมัยก็ถูกรวมเข้าไปสู่ส่วนกลาง อันนี้ก็คือเอาอำนาจกลับมาที่เดิม เราจึงใช้คำว่ายุติรัฐราชการรวมศูนย์ทวงคืนอำนาจให้ท้องถิ่น
นายปิยบุตร กล่าวว่า เรื่องการกระจายอำนาจมันถอยหลังตั้งแต่ปี 2549 และถอยหลังๆ มากขึ้นในปี 2551 มันไม่ใช่แค่เรื่องว่าเราไม่มีโอกาสเลือกตั้งท้องถิ่น แต่มันหมายถึงว่าวิธีคิดของ คสช.รัฐบาลสืบทอดอำนาจนี่เขามององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกลไกของเขา เขาไม่มององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือการตัดสินใจของคนในพื้นที่ การเลือกผู้ปกครองของคนในพื้นที่ แต่เขามองว่า อปท.ทั้งหลายมันคือเครื่องมือของเขา มือไม้ของเขาในการไปจัดการ เรามีกฎหมายแผนการกระจายอำนาจออกมาในปี 2542 บอกว่าจะต้องเพิ่มงบเข้าไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้เวลาเอางบไปให้ท้องถิ่น 35 % นั้น คุณมองอปท.เป็นเพียงท่อผ่านงบ คุณเอาเงินไปให้แต่คุณไปสั่งเขาว่าต้องเอาไปแจกโน่นแจกนี่ตามที่คุณบอก เขาไม่ได้มีโอกาสเอางบก้อนนี้ เงินอุดหนุนก้อนนี้ไปตัดสินใจเองว่าจะทำโครงการอะไร เรายังมีปัญหาในเรื่องของรายได้ของท้องถิ่นซึ่งน้อยมาก สำหรับตนต่อไปเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสำคัญๆ มันต้องเปลี่ยนวิธีคิด คือให้ท้องถิ่นเก็บก่อน แล้วส่วนที่เกินค่อยเอากลับไปที่ส่วนกลาง เป็นต้น เราต้องเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นประกอบกิจการต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ อาจจะมีความไม่เสมอภาคกันระหว่างท้องถิ่นต่างๆ ความสามารถในการหารายได้ไม่เท่ากัน ถ้าส่วนไหนด้อยกว่าส่วนกลางก็เอาเงินอุดหนุนเข้าช่วย อย่างนี้เป็นต้น
“ทั้งหลายทั้งปวงที่ผมพูดไป มันไม่ใช่แค่มาตรการที่จะทำ มันต้องสู้เรื่องมายาคติ เรื่องวิธีคิดของคนจำนวนมากด้วย คนจำนวนมากมักจะบอกว่า ไม่เอาหรอก ให้อำนาจไปอยู่ที่ท้องถิ่น เพราะเรามีมายาคติชุดความคิดที่ว่าคอร์รัปชัน เลือกตั้งโกง เลือกตั้งท้องถิ่นเท่ากับมาเฟียท้องถิ่น เลือกตั้งท้องถิ่นได้แต่ตระกูลการเมืองท้องถิ่นเข้าไปทำ ดังนั้นมันต้องเปลี่ยนวิธีคิดตรงนี้ด้วยว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้หมายความว่าคอร์รัปชัน การเลือกตั้งท้องถิ่นอาจจะหมายความว่าทำเรื่องสิ่งดีๆ ให้กับพื้นที่ที่เขาต้องการได้เอง ดังนั้นคณะก้าวหน้าก็เลยตั้งใจจะมารณรงค์เรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่น เรื่องนายกฯ อบจ.เราจะส่งแข่งในนามคณะก้าวหน้า” นายปิยบุตร กล่าว.
"คิด" - Google News
June 16, 2020 at 02:51AM
https://ift.tt/30MqHiT
'ปิยบุตร'ไม่รู้พรรคก้าวไกลคิดอย่างไร แต่ยืนยันส่งผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นในนามคณะก้าวหน้า - ไทยโพสต์
"คิด" - Google News
https://ift.tt/2zKBRJC
Home To Blog
No comments:
Post a Comment