ผู้เขียน | ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : เอกชนกดดัน
กระแสต่อต้านการสร้างความเกลียดชัง หรือเฮตสปีช กำลังมาแรงต่อจาก Black Lives Matter หรือชีวิตคนดำก็มีค่า
เป็นการขยายความที่คนในสังคมต้องการเห็นการปฏิรูปที่จริงจัง ปรากฏว่าบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ขานรับทันที
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เศรษฐกิจตึงเครียดจากผลกระทบโควิด บริษัทเอกชนผู้ผลิตสินค้าย่อมต้องดิ้นรนการขายของให้ฟื้นกลับมาเร็วที่สุด ถ้าจับกระแสสังคมไม่ได้ก็คงไปไม่ถึงเป้าหมาย
ตัวอย่างล่าสุดเป็นข่าวครึกโครมว่าเฟซบุ๊กเจอเหล่าบริษัทเอกชนผู้ผลิตสินค้ายักษ์ใหญ่รุมระงับโฆษณา
ขนาดเฟซบุ๊กยิ่งใหญ่และเป็นเบอร์หนึ่งของโซเชียลมีเดียโลก ยังหนีกระแสทวงความยุติธรรมของสังคมไม่ได้ แถมยังถูกกดดันอย่างหนักเมื่อบริษัทผู้ผลิตสินค้าเอาค่าโฆษณามาเป็นไม้ตาย
เรื่องเริ่มมาจากแนวร่วมสิทธิพลเมืองจัดรณรงค์ #StopHateforProfit หยุดสร้างความเกลียดชังเพื่อหาเงิน กดดันให้บรรดาโซเชียลมีเดียต้องมีนโยบายและการปฏิบัติที่ยับยั้งหรือหยุดยั้งการความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มของตัวเอง ไม่ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นเวทีเผยแพร่ความเกลียดชังเพียงเพื่อจะทำเงิน
ยิ่งเมื่อเฟซบุ๊กนิ่งงันไปพักใหญ่ ขณะที่โซเชียลมีเดียอื่นๆ เริ่มลงดาบกับพวกเฮตสปีช บรรดาบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่จึงงัดมาตรการระงับโฆษณามาใช้กับเฟซบุ๊ก
การบอยคอตดังกล่าวทำให้หุ้นเฟซบุ๊กร่วงไปถึงร้อยละ 8.3 เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย. คิดเป็นมูลค่าถึง 56,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งยังสะเทือนทรัพย์สินของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นายใหญ่เฟซบุ๊ก หายไปถึง 7,200 ล้านดอลลาร์
แม้ต่อมาเฟซบุ๊กแจ้งว่าเคารพการตัดสินใจดังกล่าว และเฟซบุ๊กเองทำงานอย่างหนักเพื่อหยุดยั้งการสร้างความเกลียดชังบนแพลตฟอร์ม แต่คาดว่าช่วงเวลาที่ถูกระงับโฆษณานี้อาจทำให้รายได้หดหายไปไม่น้อย
ปรากฏการณ์นี้บ่งบอกว่า โซเชียลมีเดียจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ได้อีก แม้ว่าจะไม่ได้มีกรอบจริยธรรมเท่ากับสื่อมวลชนดั้งเดิม
อีกกรณีที่น่าสนใจและต่อเนื่องมาจากปม จอร์จ ฟลอยด์ หรือ Black Lives Matter คือการตั้งคำถามกับผู้ผลิตสินค้าว่าจะยังนำเสนอการเหยียดผิวต่อไปหรือไม่
บางบริษัทต้องปรับเปลี่ยนโลโก้สินค้าที่ใช้มายาวนาน เนื่องจากโลโก้นั้นเหมือนตอกย้ำภาพว่า คนดำมักทำงานรับใช้ หรือใช้แรงงานมากกว่าสมอง
ล่าสุดความดำ-ความขาวก็ลามมาถึงวงการสวยๆ งามๆ ด้วย
ลอรีอัล บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส ถึงขั้นประกาศลบคำว่า ไวท์เทนนิ่ง สว่างใส ผิวกระจ่างใส ออกจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ หลังจากบริษัทยูนิลิเวอร์ สาขาอินเดีย และบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทำคล้ายๆ กันนี้
เพราะบรรดาครีมหน้าขาวเวลาขายโฆษณา ที่มักจะตอกย้ำภาพว่า ขาวจึงนับว่าสวยหล่อ น่ารัก และดำคือสิ่งที่ไม่น่าอภิรมย์
ตอนนี้บริษัทเอกชนฝรั่งเริ่มเปลี่ยนแล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่ากระแสเลิกเหยียดกันนี้จะมาถึงไทยหรือไม่
"คิด" - Google News
June 30, 2020 at 09:53PM
https://ift.tt/2AobeL6
สถานีคิดเลขที่ 12 : เอกชนกดดัน - มติชน
"คิด" - Google News
https://ift.tt/2zKBRJC
Home To Blog
No comments:
Post a Comment